ฮานอย โฮจิมินห์ ซาปา ดาลัด มุ่ยเน่ น่าจะเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ที่คนไทยนึกถึงเมื่อคิดจะไปเที่ยวเวียดนาม เติ้ลกับเจนมีโอกาสไปเที่ยวเวียดนามหลายครั้งแต่ครั้งนี้พิเศษกว่าเดิมเมื่อมีโอกาสได้บินไปพร้อมกับเที่ยวบินปฐมฤกษ์ กรุงเทพฯ – ไฮฟอง ของสายการบินเวียตเจ็ท หลายคนอาจจะยังไม่ค่อยคุ้นหูกับชื่อเมืองเท่าไรนัก
โดยสายการบินเวียตเจ็ท บินตรงกรุงเทพฯ – ไฮฟอง บริการเที่ยวบินในวันจันทร์ พุธ ศุกร์ และอาทิตย์ ใช้เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมง 50 นาที โดยเดินทางออกจากกรุงเทพฯ เวลา 15.20 น. ถึงเมืองไฮฟองเวลา 17.10 น. (เวลาท้องถิ่น) ส่วนเที่ยวบินกลับ เดินทางออกจากเมืองไฮฟองเวลา 17.40 น. (เวลาท้องถิ่น) และถึงกรุงเทพฯ เวลา 19:30 น. ซึ่งเติ้ลกับเจนมีโอกาสได้ไปร่วมทริปเที่ยวบินปฐมฤกษ์มาด้วยครับ นั่งสบาย อาหารบนเครื่องอร่อย ที่สำคัญแอร์น่ารักมาก
และในทุกการเดินทางไม่ว่าจะต่างประเทศหรือในประเทศ สิ่งที่เติ้ลมักจะไม่ลืมนั่นและก็ยังซื้อให้กับคนที่รักเพิ่มด้วยนั่นก็คือการทำประกันการเดินทาง เพราะเราไม่รู้อนาคตว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ประกันการเดินทางไม่ได้ดูแลแค่เรื่องกระเป๋าหายอย่างที่เรารู้ๆ กันเท่านั้น ยังครอบคลุมไปถึง อุบัติเหตุ ความล่าช้าของเครื่องบิน การเจ็บป่วย ซึ่งการไปเจ็บป่วยโดยเฉพาะที่ต่างประเทศนั้นเป็นสิ่งที่หนักหนาเอาการเลยนะ
ทริปนี้ก็เช่นกัน ก่อนเดินทางเราจึงรีบหาข้อมูลการซื้อประกันไว้เพื่อดูแลเราทั้งทริป เพราะทริปนี้เรามีเดินขึ้นเขาและนั่งเรือออกทะเลด้วย ซึ่งเราก็ไม่ทราบสภาพอากาศที่แน่นอนว่าจะปลอดภัยหรือเปล่า รวมถึงอาหารการกินซึ่งไม่รู้ว่าจะเกิดอาการแพ้หรือไม่ หาข้อมูลจน มาเจอของ ไทยวิวัฒน์ ลองเปรียบเทียบราคาและการคุ้มครองแล้วถือว่าคุ้มค่ามากๆ ไปเวียดนาม 3 วัน 2 คืน ราคาเริ่มต้นแค่คนละ 172 บาทเท่านั้น ราคาหลักร้อย คุ้มครองหลักล้านนน
มาดูเหตุผลว่าทำไมเติ้ลกับเจนถึงเลือกประกันของไทยวิวัฒน์
– เข้าได้ทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชนโดยไม่ต้องสํารองจ่ายค่ารักษาพยาบาลก่อน
– ให้บริการยืมเงินได้สูงสุด 25,000 บาท กรณีเงินพกติดตัว ถูกขโมย โดนลักทรัพย์
– คุ้มครองความล่าช้าของสายการบินสูงสุดถึง 20,000 บาท
– ครอบคลุมทุกกิจกรรม Adventure จะผาดโผนแค่ไหนใช้ตัวนี้อย่างห่วง
– Call center ติดต่อง่ายพูดภาษาไทยตลอด 24 ชั่วโมง
– ราคาไม่แพงไปกว่าเจ้าอื่น และตอนนี้มีโปรโมชั่นลด 15%
ซื้อได้ที่ : http://www.thaivivat.co.th/ecommerce/th/gtip.php หรือโทร 1231
มีตั๋วแล้ว ทำประกันการเดินทางแล้ว ก่อนจะไปเมืองไฮฟองเรามาทำความรู้จักเมืองนี้กันก่อน
มารู้จักเมืองไฮฟอง?
เมืองไฮฟองถือเป็นเมืองขนาดใหญ่ซึ่งเป็นที่ตั้งของท่าเรือสำคัญของเวียดนาม คำว่า “ไฮ” แปลว่ามหาสมุทร และ “ฟอง” แปลว่าการปกป้อง ชื่อ ไฮฟอง เป็นการเรียกขานมหาสมุทรที่ทำหน้าที่ปกป้องผู้รุกรานที่จะมาโค่นล้มอำนาจของเวียดนาม จุดเด่นของเมืองจึงอยู่ที่ธุรกิจท่าเรือ อาหาร ภูมิทัศน์ จุดชมวิว และเจดีย์ต่างๆ โดยไฮฟองเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศและมีความเจริญรุ่งเรืองด้วยอุตสาหกรรมการผลิตขนาดใหญ่ โดยถือเป็นประตูสู่อ่าวฮาลองเบย์ โดยอยู่ห่างออกไปเพียง 70 กม. และ อยู่ห่างจากฮานอย 120 กม. ถือเป็นเมืองชายฝั่งที่มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและภูมิประเทศที่สวยงาม
สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ
ฮาลองเบย์ (้Ha Lonh Bay)
เกาะหินปูนน้อยใหญ่หลากหลายรูปทรงจำนวนเกือบ 2,000 เกาะ ซึ่งกระจายอยู่ทั่วอาณาบริเวณกว่า 1,500 ตร.กม. (พื้นที่ใหญ่กว่าฮ่องกง) ซึ่งถือเป็นมรดกโลกแห่งแรกๆ ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เรียกว่าแค่ไปถึงปุ๊บก็ตื่นตาตื่นใจสุดๆ กับภูเขาหินปูนที่ผุดขึ้นจากท้องทะเลและความสูงที่ลดหลั่นอย่างงดงาม
ถ้ำเทียนกุง (Thien Cung Cave)
เป็นถ้ำที่อยู่ในฮาลองเบย์ ซึ่งแปลว่า ถ้ำวังแห่งสวรรค์ ถือเป็นถ้ำที่สวยงามที่สุดของอ่าว ภายในถ้ำจะมีหินงอก หินย้อย หลากหลายขนาดและรูปทรง ทำให้การไต่หน้าผาถ้ำเทียนกุงเป็นสิ่งที่ท้าทายมาก นักท่องเที่ยวต้องผ่านทางเข้าแคบๆ ก่อนเพื่อเข้าสู่พื้นที่อันกว้างใหญ่ภายใน เมื่อเดินลึกเข้าไปก็จะพบกับความงามของหินงอกหินย้อยมากขึ้นเรื่อยๆ
เกาะกั๊ตบา (Cat Ba Island)
เกาะกั๊ตบา ถือเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดจากจำนวน 367 เกาะ ชื่อเกาะกั๊ตบา หมายถึง “เกาะของสตรี” (กั๊ต หมายถึงหาดทราย และ บา หมายถึง สตรี) ตำนานเล่าว่า มีสตรี 3 คนในราชวงศ์ตราน ถูกสังหารและร่างได้ลอยมาติดที่เกาะแห่งนี้ โดยแต่ละร่างถูกพัดมาเกยชายหาดคนละแห่ง และทั้งหมดถูกพบโดยชาวประมง โดยเกาะกั๊ตบาเป็นเกาะแห่งเดียวในอ่าวฮาลองเบย์ที่มีประชากรอาศัยอยู่
อุทยานแห่งชาติกั๊ตบา (Cat Ba National Park)
อุทยานแห่งชาติกั๊ตบาเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมกว่า 20 สายพันธ์ุ นก 69 สายพันธุ์ สัตว์เลื้อยคลานและสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ 20 สายพันธ์ุ และกบกว่า 11 สายพันธุ์ ซึ่งมีสัตว์หลายสายพันธุ์ที่ถูกขึ้นบัญชีในหนังสือปกแดงของเวียดนาม (Vietnam Red Book) เพื่อการปกป้องสายพันธุ์อย่างเข้มงวด โดยมีสายพันธ์ุที่มีการปกป้องมากที่สุดคือ วอก ซึ่งพบได้บนเกาะกั๊ตบา ส่วนพันธุ์พืชที่มีความพิสดารมากคือ ผลมาเทียน (Ma Tien) ซึ่งเป็นผลไม้มีพิษร้ายแรงและสามารถทำให้ผู้ที่กินเสียชีวิตในทันที มีเพียงวอกเท่านั้นที่ดำรงชีวิตโดยกินใบและผลของพืชชนิดนี้
ชายหาดกั๊ตบา (Catba Island Beach)
หรือหาดกั๊ตโต ซึ่งมี กั๊ตโก 1 และกั๊ตโก 2 ถือเป็นสถานที่พักผ่อนที่ดีมาก นักท่องเท่ียวสามารถเดินหรือใช้บริการมอเตอร์ไซค์หรือแท็กซี่เพื่อไปยังหาดแห่งนี้ โดยหาดทรายทั้งสองแห่งนี้มีเนินเขาเล็กๆ คั่นกลางซึ่งสามารถเดินข้ามโดยใช้เวลาเพียง 20 นาที นอกจากนั้นยังมีเส้นทางเดินชมธรรมชาติไปตามป่าริมทะเลซึ่งมีระยะทางประมาณ 700 เมตร ส่วนหาดกั๊ตโก 2 จะเงียบสงบมากกว่าและเหมาะสำหรับคู่รักที่ต้องการความเป็นส่วนตัว รวมถึงการตั้งแคมป์กับกลุ่มเพื่อน
วานเซีย หมู่บ้านลอยน้ำกัววาน (Van Gia – Cua Van Floating Village)ตั้งอยู่ในเขตชุมชนฮังถัง (้Hung Thang Commune) เมืองฮาลอง ห่างจากท่าเรือนักท่องเที่ยวราว 20 กม. เป็นหมู่บ้านชาวประมงที่ตั้งอยู่อย่างสงบในอ่าว แวดล้อมด้วบขุนเขากลางทะเล หมู่บ้านลอยน้ำกัวรานมีประชากรราว 733 คน 176 ครัวเรือน โดยประกอบอาชีพทำประมง หมู่บ้านแห่งนี้จึงเหมาะสำหรับแวะท่องเที่ยวเพื่อชมสภาพชุมชนเรือแพ
ป้อมปืนใหญ่ (Cannon Fort)
ตั้งอยู่ไม่ไกลจากใจกลางเมืองกั๊ตบา โดยป้อมแห่งนี้ถูกใช้ในการป้องกันรุกรานทางทะเลของเมืองไฮฟองในช่วงสงครามเวียดนาม ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่จะทำให้นักท่องเที่ยวเข้าใจเกี่ยวกับสงครามเวียดนามมากยิ่งขึ้น
วัดเหง่ (ืืNghe Temple)
ตั้งอยู่ไม่ห่างจากโรงอุปรากรท้องถิ่น วัดแห่งนี้มิใช่เพียงสถานที่สำคัญทางศาสนาหากยังเป็นสัญลักษณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ โดยสถานที่เพื่อการรำลึกถึงสตรี นาม เล ฉาน ผู้ก่อตั้งเมืองไฮฟอง ซึ่งเป็นสตรีที่ต่อสู้กับชาวจีนร่วมกับวีรสตรีคนอื่นๆ ในนามกลุ่ม Trung Sisters วัดแห่งนี้ถูกใช้เป็นศาลบูชาและต่อมาได้รับการสร้างขึ้นใหม่ จนกระทั่งกลายมาเป็นสถานที่สำคัญทางศาสนาอันเป็นที่สักการะของคนท้องถิ่น โดยจุดเด่นของวัดนี้อยู่ที่งานประติมากรรมหินที่สวยงามมาก
โรงอุปรากรไฮฟอง (Hai Phong Opera House)
โรงอุปรากรแห่งแรกของเมืองสร้างโดยคณะละครเร่ในโรงแรม Hotel des Colonies เมื่อปี ค.ศ.1888 ต่อมาในช่วงปี ค.ศ.1895 – 1897 คณะอุปรากรฝรั่งเศสที่ตระเวณจัดการแสดงอินโดจีน ซึ่งนำแสดงโดย อเล็กซานดรา เดวิด-นีล ได้มาเปิดการแสดงที่เมืองไฮฟองในเรื่อง ลา ทราวิอาทา (with La Traviata) และคาร์เมน (Carmen) นอกจากนั้นยังมีคณะที่มาเปิดการแสดงในช่วงรอเวลาการจัดงานเอ็กซ์โปในฮานอย 1902 นั่นก็คือคณะแบลนซ์ อาร์รัล (ิBlanche Arral)
เจดีย์เกาลินห์
เจดีย์เกาลินสร้างโดยครอบครัว เล วาน ในหมู่บ้านฮาเลียน โดยสถาปัตยกรรมมีความเรียบง่ายมาก แบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ โถงส่วนหน้า ห้องสำหรับบรรพบุรุษ และห้องครัว เจดีย์เกาลินห์เคยเป็นที่กักตุนเสบียงของเวียดมินห์ในสงครามต่อต้านการปกครอง เมื่อสงครามสิ้นสุดลงเจดีย์เกาลินห์เสียหายอย่างหนัก และได้รับการบูรณะในปี ค.ศ.2001
อ่านมาถึงบรรทัดนี้เพื่อนๆ หลายคนคงเกิดความอยากไปเมืองไฮฟองขึ้นมาแล้ว แบกกล้องเที่ยวมีโปรโมชั่นดีๆ จากเวียตเจ็ท มาฝากกันด้วยครับ
เวียตเจ็ทจัดโปรโมชั่นพิ
ผู้ที่สนใจสามารถจองตั๋